น้องอั๋นสายแดก

บล็อคนี้ไม่มีไรมาก ไปเที่ยวเยาวราชช่วยเทศกาลกินเจกับเพื่อนมา เนื่องจากเพื่อนชวนไปกินน้ำชาไฮโซแถวเยาวราช แล้วบังเอิ้ญญญญ มีเทศกาลเจพอดี เลยได้รูปสวยดี เอามาอวด อวดนางแบบ ไม่ได้อวดสกีลการถ่ายภาพของเพื่อน เอิ้กๆๆ แต่เพื่อนถ่ายสวยดีนะ จริงๆ ใครมีกล้องก็ตามเค้าไปหมดแหล่ะ สปอยอะเลิ๊ดดดด มีแต่รูปอิชั้นนะคะ นางแบบสวยแหล่ะ อวดดดด

DSCF3641.JPG

คนเยอะน่าดู พอเห็นแบบนี้ ก็ตั้งใจไว้ว่า เฮ้ย อยากกินหมี่เจ หว่ะ แกๆ หาหมี่เจกินกันก่อน แล้วเดินไปซักพักก็พบว่า หมี่ที่เราอยากกินซึ่งก็คือหมี่ซั่ว หายากมากๆ มีแต่หมี่กระเฉด มาม่า แล้วก็ยากิโซบะ ทั้งนั้นเลย

DSCF3719.JPG

เอาเถอะ เดินไปเดินมาก็หิว เลยกินกุ้ยช่ายไปก่อน อร่อยดี เราว่า ถ้าที่ไหนทำไม่อร่อย ก็ไม่ต้องทำขายละ เพราะกินที่ไหนก็อร่อย แต่เพื่อนบอกว่า ร้านไม่อร่อยก็มีนะแก แต่ที่แกเคยกิน คิดว่าเค้าคงซื้อแต่เจ้าที่อร่อยๆให้แกกินทั้งนั้นแหล่ะ

DSCF3652.JPG

เดินอีกซักพัก เพื่อนบอก อยากกินขนมจีบ…เออ ขนมจีบเจอ่ะแก คือเป็นไส้ถั่วอ่ะ น้ำจิ้มก็ไม่ใช่น้ำจิ้มเปรี้ยวอ่ะ รสชาติประหลาด บอกไม่ถูก อยากกินขนมจีบหมูมากกว่า

DSCF3678.JPG

แล้ว เมื่อถือเทศกาลเจ จะขาดพวกของทอดได้ไง ชั้นอยากกินเผือกทอดแกร๊… มาร้อนๆเลย อร่อยไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม (เพราะอาม่าใส่น้ำจิ้มให้น้อยมาก) อาม่าบอก ขายลูกละสิบบาทมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว… ค่ะ ก็ดีค่ะ หนูไม่ค่อยได้มาแถวนี้เท่าไหร่

DSCF3704.JPG

เดินไปเกือบสุด ยังหาหมี่ซั่วไม่ได้เลยค่ะ แต่เจอนี้…ขนมเปี๊ยะ ขนมไหว้พระจันทร์ ถั่วตัด อะไรพวกนี้ ขายชิ้นละแปดบาทเอง ใส้ทุเรียนอร่อยมาก เหมาะกับการกินกับน้ำชามาก (มันก็หวานอยู่นะ) น่าจะซื้อใส้ทุเรียนมาหลายๆลูก แหม่…

DSCF3717.JPG

จริงๆก็อิ่มแล้วหล่ะ จริงๆตอนเดินมา เห็นมีร้านขายหมี่ซั่วอยู่ร้านเดียว แต่ว่ามันหมดแล้ว ขากลับ เราเลยแอบเดินเลี้ยวๆไปดูว่า เค้าเอามาลงใหม่รึยัง… เฮ้ย มาพอดี เลยรอเค้าผัดแล้วจัดเลย อร่อยดี ไม่เสียเที่ยวแล้ววันนี้ ฮะๆๆๆ อยากกินอีก จริงๆชอบของที่บ้านพ่อทำมากๆเลย แต่ว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีใครทำแล้ว พ่อบอก เดี๋ยววันหลังแวะซื้อหมี่ที่นครสวรรค์แล้วเอาไปให้เค้าทำให้

DSCF3744.JPG

โอเค เสร็จภาระกิจเรา…หรอ ไม่ใช่ เรามากินน้ำชาเฟร้ยยยย แต่อิ่มมาก การกินน้ำชาเหมือนเป็นการล้างท้อง เรากะเพื่อนก็ไปจอดที่ร้านชา Double dog tea ชาหอมดีมาก จริงๆเราไม่ค่อยรู้เรื่องชาเท่าไหร่หรอก เค้าว่าดี เราก็ว่าดี ชาอันนี้คืออะไร… จำชื่อไม่ได้ จำได้แต่คำบรรยาย อันสีเข้มๆคือ “แก่ สปอร์ต ใจดี ชานเมือง” อันสีอ่อนๆคือ “สาวรวยเสน่ห์ มีจริตจะก้าน” เราชอบอันนี้ กลิ่นหอม ผลไม้ เสิร์ฟพร้อมขนม เหมาะมากกับการนั่งพักและล้างปากจากการตะลุยแดก

DSCF3765.JPG

แหม่…เสื้อกับถ้วยน้ำชาเข้ากันมากเลย

DSCF3775.JPG

เสร็จสิ้นวันนี้ อิ่มมากๆ สนุกมากเลย แต่ไปบ่อยไม่ดี อ้วนมาก ลงไปหนึ่ง ขึ้นมาอีกสอง(นี่น้ำหนักหรือไฮดร้า) แต่ดีนะ มีเพื่อนมีกล้อง จริงๆมีหลายทริปมาก แต่วันนี้ว่าง เลยมานั่งอัพรูปเล่น จริงๆ รูปเซ็ตนี้ เรารู้สึกไปเองนะตัวเองเป็นสาวหมวยเลย หน้าเหมือนคุณย่ามากเลย (คุณย่าเป็นลูกครึ่งจีนที่ไม่ชอบให้ใครเรียกเค้าว่าอาม่า ฮะๆๆๆ)

DSCF3703.JPG

DSCF3755.JPG

More photo: https://goo.gl/photos/Jd1P9xehC5fdJgK38

สุดท้ายตามเคย กับรูปสวยสุดของวัน เคยไปกินอะไรไม่รู้(จำไม่ได้)
จำได้แต่ว่าต้องจับตะเกียบแล้วเค้าบอกเราว่า…
จับตะเกียบแบบนี้ ถ้าเป็นที่บ้านเค้า คงโดนผู้ใหญ่ดุไปแล้ว…
คือ จับไม่ถูกอ่ะ แล้วเราจะโดนดุมั้ย
วันหลังไปกินข้าวกัน จะใช้ช้อนส้อมแทนละกัน ฮะๆๆๆ

dscf3746

 

ทดลองเป็นคนทำบัวลอย

อาทิตย์ที่ผ่านมา เหมือนจะอดแป้งไปซักพัก อยู่ๆก็เลยอยากจะกินบัวลอยขึ้นมาค่ะ แป้งล้วน ไม่ผสมโปรตีน เพราะทำไข่หวานไม่เป็น

คืนวันนั้น เลยไปถามคนที่บ้านว่า บัวลอยใช้แป้งอะไรทำคะ ก็ไม่มีใครตอบ เลยไปหยิบแป้งข้าวเหนียวมาอย่างเดียวค่ะ เพราะหลังถุงเขียนวิธีทำบัวลอยเอาไว้ แล้วก็ซื้อฟักทอง กับ เผือก แบบที่ต้มมาแล้วจากสลัดบาร์ค่ะ อยากเผือกด้วยเหมือนกัน เลยจัดไปคืนนั้นซื้อของเสร็จ แม่ไลน์มาบอกว่า แม่ผสมแป้งข้าวเหนียวกับข้าวเจ้าครึ่งๆค่ะ แต่ก็อ่าว..ซื้อมาแล้ว ไม่เป็นไร ปั้นข้าวเหนียวตามสูตรหลังถุงก็ได้

เสร็จแล้วก็ปั้นๆ ได้บัวลอยต้มกิน ก็ไม่เละนะ อร่อยดี นุ่มมาก เราไม่อยากกินกะทิ เลยต้มแล้วผสมน้ำขิงซองทำแทน เป็นบัวลอยน้ำขิงแป้งล้วน สีเหลืองคือผสมฟักทอง สีม่วงคือผสมเผือก พอดีเราชอบเผือกมากๆ เดี๋ยวนี้เรื่องชาวบ้านไม่ค่อยมีให้เผือกละ เลยต้องซื้อมากินเอง(เอะ)

Jpeg

บัวลอยสามสีและแปะก้วย

จากนั้นอีกไม่กี่วัน ก็ซักอาทิตย์ก็อยากกินอีก แต่ก็ทำตามสูตรแม่บ้าง คือใส่แป้งข้าวเจ้าไปด้วย ผลก็คือ… แอบแข็งกว่าแป้งข้าวเหนียวล้วนนะ รอบนี้ไปทำกินกับเพื่อนด้วย เพื่อนอยากกินบัวลอยกะทิ เลยต้มใส่น้ำกะทิค่ะ ผลคือ กะทิหอมมากๆๆๆ แล้วก็ดีนะ เรามีสูตรแป้งข้าวเหนียวล้วนด้วย รอบนี้เลย มีทั้งนิ่มๆ แข็งๆ ปนกันไป แต่เราก็รู้แล้วว่า ถ้าชอบกินนิ่มๆ ก็ใส่แต่แป้งข้าวเหนียวล้วน ถ้าชอบแป้งแข็งขึ้นมาหน่อย ก็ใส่แป้งข้าวเจ้าผสมไปด้วย

P_20160725_205134.jpg

เฮ้ยแกคือมัน อร่อยมากจริงๆ ถ้าไม่ติดว่ากลัวอ้วน ชั้นจะปั้นกินเองบ่อยๆ

พอเราส่งบัวลอยกะทิให้เพื่อนในกลุ่มดู มีคนอยากกินบัวลอยน้ำขิงค่ะ เราก็เลยอยากทำเหมือนกัน แต่บอกก่อนเลยว่า เหมือนจะไม่เคยกินบัวลอยน้ำขิงแหล่ะ รู้ว่าข้างในมันเป็นไส้งาดำแต่ไม่รู้ว่า texture ของใส้เป็นยังไง ก็ไปหาสูตรในอินเตอร์เน็ตเห็นสูตรนึงน่าสนใจมาก คือเค้าเอาผสมกับเนยถั่วแบบหยาบ เฮ้ยยยย เราชอบเนยถั่ว คือปกติเค้าบอกว่า ต้องเอางาไปคั่ว เอาน้ำมันงามาทำให้น้ำตาลทรายจับกับงาจนเป็นก้อน อะไรแบบนี้ นี่ง่ายดี เอาผสมเนยถั่วเลย เป็นก้อนเหมือนกัน แต่เหมือนเราจะใส่เนยถั่วน้อยไปหน่อย มันเลยไม่เป็นก้อนเลย เลยแอบใส่น้ำผึ้งไปด้วย แล้วก็ห่อด้วยแป้งข้าวเหนียวล้วน เพราะตอนนี้รู้แล้วว่า เราชอบแป้งนิ่มๆที่สุด

P_20160804_205919.jpg

ยำลูกชิ้น…เอ้ยไม่ใช่ บัวลอยต้มในน้ำขิงตะหาก

พอกัดไปแล้ว แห้งๆดี แต่ก็ไม่รู้ว่าของจริงต้องเป็นยังไง แต่เราว่ามันหวานไปหน่อย รอบหน้าใส่แค่งากับเนยถั่วพอ น้ำตาลคงไม่ต้องแล้ว เพื่อนบอกว่า น้ำผึ้งก็ไม่ต้องใส่นะมันมีกลิ่น…โอเค ไว้รอบหน้าๆ

P_20160804_202537.jpg

ถั่วเต็มๆ อร่อยดี คิดว่าไม่เคยกินแบบนี้ที่ไหนแน่นอน

สุดท้าย เราดันทำไว้หลายลูกเลย อาทิตย์นี้ ต้มกินกับน้ำขิงทุกเช้าน่าจะดีเนอะ กินให้เบื่อไปเลย ฮะๆๆ

อั๋นเอง

Jpeg

Cocktail made by order

เมื่อวานเป็นวัน Hang out แห่งอาทิตย์เลยค่ะ เที่ยววันเดียวแทบหมดตัว เริ่มจากกินชูชิ ชาชิมิเทพ ร้าน Sushi Hiro ช่วงนี้ลดครึ่งราคาด้วย สั่งซะลืมเลยว่าอิ่ม สั่งข้าวมาแล้วกินไม่หมด เพื่อนผู้ชายเห็นแล้วคงสงสาร กินให้ก้อได้วะ ตั้งครึ่งถ้วย ฮะๆๆ ต่อๆ คือจะเล่าเรื่องประทับใจเกี่ยวกับร้าน Cocktail ชื่อ water library อยู่เส้นทองหล่อ ติดถนนใหญ่เลย สั่งมากันคนละแก้วแล้วแบ่งกันชิม อร่อย ฟิน บางแก้วมี story ด้วย พนักงานจะมาเล่าว่า คอกเทลแก้วนี้หมักจากเบียร์สิบแปดปี เวลากินต้องได้กลิ่นของโรสแมรี่เผา อะไรประมาณเนี้ย คือพนักงานรู้หมดว่าคอกเทลรสชาติเป็นไง แนะนำได้ (ไม่เหมือนร้านรูฟท๊อปบางร้าน หงุดหงิดมาก แพงก็แพง เก้าอี้ก้อไม่มี งอน) อั๋นสั่งไปสองแก้ว รูปที่โชว์เป็นรูปสุดท้าย ชื่อ Miss Penelope อร่อยมาก ข้างล่างเป็นแมนดารินไซรัป ข้างบนเป็น นมๆครีมๆอะไรนี้แหล่ะ แถมเขียนชื่อให้ด้วย ไฮโซ อร่อยด้วย ถูกกว่าแก้วแรกที่กินอีก ฮะๆ S__14032898 แก้วแรกก็อร่อย เราสั่ง Rock & Roll มีเสิร์ฟพร้อม Gummy Bear ที่หมักจากเหล้าของร้านด้วย แก้วน้ำสีชมพูสูงๆด้านขวา อร่อย ฟิน ไว้รอบหน้าไปอีก ไปกันหลายคน ก็ชิมของคนอื่น นิดๆหน่อยๆ อร่อยดี ❤ ❤ S__4678747 และ ชอทสุดท้าย ปุ๊นๆๆๆ อะไรก็ไม่รู้ เค้าไม่ยอมบอก แต่อร่อยดี Bottom UP!!! S__14098439

ทดลองเป็นคนขายเบเกอรี่

เมื่อวันอาทิตย์อั๋นไปซื้อของทำขนมปัง ตระเวนหลายที่เหมือนกัน เพื่อหาว่าที่ไหนขายถูกสุดในแถวๆโซน บางขุนศรี และปิ่นเกล้า แล้วก็ไปตามหาตราชั่งดิจิตอลด้วย

ความจริงที่น่าเจ็บใจคือ อั๋นเริ่มจากไปดูที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า คือไกลที่สุดจากบ้าน เพื่อไปหาตราชั่ง แต่ของหมด แต่ไม่เป็นไร หาซื้อพวกแป้ง ยีสต์อะไรพวกนี้ก่อนก็ได้ เดินไปที่ท๊อป แพงมากๆเลยจ้า ดีนะพอจำราคาได้ว่ามันไม่ได้แพงขนาดนี้ จากนั้นเลยไปหาที่โลตัสปิ่นเกล้า ยิ่งแล้วใหญ่เลยจ้า ไม่มีแม้กระทั่งแป้งที่อยากได้ จากนั้นก็กลับมาดูที่ฟู๊ดแลนด์จรัญ ก็ใกล้ขึ้นมาหน่อย ได้ยีสต์มาหนึ่งขวดเล็กๆ ราคาถูกกว่าท๊อปเยอะมากๆ ดีนะไม่ได้ซื้อ แต่แป้งขนมปัง เหมือนจะจำได้ว่าร้านขายของสำหรับเบเกอรี่ที่ตลาดบางขุนศรีมีขายถูกกว่า เลยไปซื้อแป้งที่ร้านนั้นแทน แต่ด้วยความที่กลัวส่วนผสมไม่เป๊ะ เลยยังอยากจะได้ตราชั่งอยู่ แล้วก็เพิ่งนึกได้ว่า เราอยู่ซอย แม็คโครจรัญฯ แล้วทำไมไม่ไปดู!!! ว่าแล้วก็เจ็บใจตัวเอง เลยเดินไปดูตราชั่ง มีให้เลือกเยอะแยะเลยค่ะ รวมถึงแป้ง ยีสต์ ผงเสริมเบเกอรี่ ราคาเท่ากับร้านขายของเบเกอรี่เลย แต่เค้าไม่แบ่งขาย สรุปคือ แม็คโคร ใกล้บ้านสุด ครบที่สุด โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปหาถึงเซนทรัลปิ่นเกล้าเลย

เอาล่ะ ตอนนี้ อั๋นก็ได้ทั้งอุปกรณ์ และ วัตถุดิบเรียบร้อยละ  พอดีวันนี้ อั๋นกับอา กลับบ้านดึกเหมือนกัน เลยมานั่งคุยกันเรื่องต้นทุนขนมกันว่าคุ้มไม่คุ้ม

ลองคิด fix cost ที่อั๋นซื้อเองเพื่อสำหรับทำขนมก่อน มันจะมี เครื่องปั่น 1500 บาท กับ ตราชั่ง 680 บาท ซึ่งพวกเตาอบ หรือไมโครเวฟ ที่บ้านมีอยู่แล้ว

คราวนี้คุณอาบอกว่า ลองคิดค่าวัตถุดิบดู ว่ากำไรรึเปล่า อั๋นบอกว่า มันไม่หมดน่ะซิ ซื้อแป้งมาหนึ่งกิโล ใช้จริงสองขีด ที่เหลือจะคิดรึเปล่า ว่าแล้วก็ลองคำนวนดูตามสัดส่วนละกัน คิดราคาเท่าที่จำได้นะ

แป้งหงส์ขาว (แป้งขนมปัง) 1 กิโล 33 บาท
แป้งบัวแดง (แป้งเค้กแบบเบา) 1 กิโล 40 บาท
ผงแพ็ตโก สาม (สารเสริมขนมปัง) 500 กรัม 96 บาท
น้ำตาลทราย (วังขนาย) 1 กิโล 22.50 บาท
เนยเค็ม (อิมพีเรียล) 250 กรัม 75 บาท
ยีสต์ (Perfect) 15 กรัม 19.5 บาท
ไข่ 10 ฟอง 40 บาท (ไข่แพงจังแฮะ ฟองละตั้งสี่บาท นี้เลือกขนาดกลางนะ)
กลิ่นนมเนย ขวดเล็กจำปริมาตรไม่ได้ 19.5 บาท
ไส้กรอก มินิคอกเทล 22 ชิ้น ราคา 39 บาท (แพงขึ้นเรื่อยๆเลยนะอันนี้)
ที่เหลือเป็น เกลือ กับ นมผง อั๋นใช้ของที่บ้าน จำราคาไม่ได้ เดี๋ยวคำนวนคร่าวๆนะ

ขนมปัง 14 ก้อน ใช้ราคาประมาณนี้

แป้งขนมปัง 220 กรัม = 7.26 บาท
แป้งเค้ก 62 กรัม = 2.48 บาท
สารเสริมขนมปัง (ใช้ไปแค่เกินครึ่งช้อนมาหน่อยนึง ไม่รู้เท่าไหร่ เอาเป็นว่าซักขีดนึงก็แล้วกัน) = 0.20 บาทก็แล้วกัน พอดีมันใช้น้อยมากๆๆ
น้ำตาลทราย 55 กรัม = 1.24 บาท
เนยเค็ม = 11.4 บาท
ยีสต์ ใช้ครึ่งนึง ก็ ประมาณ = 9.75
ไข่ไก่ สองฟอง = 8 บาท
กลิ่นนมเนย ใส่ไปครึ่งช้อน น่าจะซัก = 1 บาทละมั้ง
ใส้กรอก CP เลยนะคะ ใช้ 14 ชั้น ก็ตกทั้งหมด

คร่าวๆประมาณนี้ ก็จะรวมเป็น 41.33 บาท ก็ต่ำกว่าที่คำนวนไว้เล่นๆกับอาว่าประมาณ ห้าสิบบาท แบบนี้ก็จะตกก้อนละ 2.95 บาท  จะเอากำไรเท่าตัวก็ลูกละหกบาทได้เลยนะ แบบไม่มีไส้นะ

คราวนี้ จะเหลือราคาไส้กรอกอีกแฮะ ตกชิ้นละ 1.77 บาทเลยแพงเหมือนกัน อาจจะลองใช้ยี่ห้ออื่นดูก็อาจจะถูกกว่านี้

อันนี้ตกอยู่ก้อนละ 36 กรัม ถ้าทำจริงคงต้องลดแป้งอีก เพราะที่ทำนี้ มินิคอกเทลอันนิดเดียว แต่แป้งหุ้มซะมากกว่า 70% ของขนมปังเลยมั้ง อาจจะได้ซัก 16-17 ลูกต่อการทำหนึ่งครั้งในอัตราส่วนข้างต้น

ถ้าเราตีซะ 16 ลูกต่อการทำหนึ่งครั้ง ถ้าอัตราส่วนเท่าเดิม ก็จะตกเหลือก้อนละ 2.5 บาท ไม่รวมไส้ บวกค่าไส้กรอกอีกก็คงเป็น สี่บาทกว่าเลย เดี๋ยวลองใช้ไส้กรอกยี่ห้ออื่นดู น่าจะลดต้นทุนได้อีกนะ แต่ถ้าเป็นไส้กรอกซีพี จะตกลูกละ 4.35 ถ้าขาย สองก้อนสิบนี้ไม่คุ้มแน่ๆ อั๋นคิดอยู่ว่าจะขาย สองลูกสิบห้าบาท แล้วใส่หน้ามายองเนสด้วย น่าจะพอเพิ่มมูลค่าได้อยู่มั้ง

ฉะนั้น ราคาไม่รวมไส้กรอก ตกก้อนละ 2.5 ถ้าขายก้อนละห้าบาทคือกำไรเท่าตัวเลยนะ เจ๋งดีแฮะ ไว้ทำอร่อยๆ ค่อยคิดต่อละกัน 😛

29839

 

ทดลองเป็น เบเกอรี่

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านๆมา บางคนอาจจะรู้แล้วว่าอยู่ๆอั๋นก็อยากทำขนมขึ้นมาซะอย่างนั้น!!!!

จริงๆแล้วไม่ใช่ว่าเราจะไม่เคยทำขนมนะ แต่ถ้าได้ลองอ่านบล็อคที่อั๋นเคยพูดถึงการทำขนมไว้ >>Mein Kuchen<< ผลลัพธ์มันไม่ค่อยจะน่าประทับใจเท่าไหร่ จริงๆแล้วอั๋นทำขนมอร่อยนะ แต่อาจเพราะตอนนั้นอุปกรณ์ไม่พร้อมไง มันก็มีโมเมนต์แบบว่า ไปเลือกหาซื้อแป้ง แต่ดันอ่านภาษาเยอรมันไม่ออกว่าแป้งอะไรใช้ทำอะไร ซื้อมาผิดบ้าง อ่านสูตรไม่ออกบ้าง จริงๆเราไม่ผิดนะ (หรอออออ จริงๆมีปรากฏการณ์ fail หลายครั้งนะ แต่ไม่อยากจะจำเลย แหะๆ)

เรื่องของเรื่องมันคือ ตอนที่อยู่เยอรมัน จะต้องทำกับข้าวกินเองก็จะดูรายการทำอาหารใน youtube พอสมควร พอกลับบ้านก็ว่างๆพอดีเห็น suggest ขึ้นมาเป็นการทำขนมของคนญี่ปุ่น ดูไปดูมา เห็นเค้าตีแป้ง ตีไข่ในเครื่องนวดแป้งอะไรนี้ รู้สึกตื่นเต้นกับการที่ไข่มันเปลี่ยนรูปไปเป็นครีมมาก เลยอยากจะสัมผัส moment นั้นอีกครั้งนึง นี้แบบประทับใจมาก ขนาดลงทุนซื้อพวกอุปกรณ์ทำขนมรวมถึงเครื่องตีแป้งเลยนะ

initial state

initial state

วันแรกๆอั๋นทำที่บ้านที่กรุงเทพ ไม่มีเตาอบ มีแต่ไมโครเวฟ ก็ทำคุกกี้ด้วยไมโครเวฟ ก็ไม่แย่เท่าไหร่นะ 🙂

คุ๊กกี้ช็อคโกแลตชิพ อบด้วยไมโครเวฟ

คุ๊กกี้ช็อคโกแลตชิพ อบด้วยไมโครเวฟ

เมื่อตอนสิ้นเดือน วันหยุดยาว อั๋นกลับบ้านค่ะ พร้อมกับชวนคนที่บ้านด้วย บอกว่า หนูอยากทำขนมค่ะ จะทำขนมอบ จะได้เอากลับมากรุงเทพ แต่ก็ยังไม่รู้จะทำอะไรดี เลยเปิด Youtube ดูเรื่อย ก็ตัดสินใจว่า อั๋นจะทำ Cupcake ค่ะ

ตอนแรกก็กะว่าจะทำแล้วอบด้วยไมโครเวฟง่ายๆ สิบยี่สิบอัน แล้วก็ไปซื้อแป้งอะไรพวกนี้มาทำ วันนั้นไป Top กับเพื่อน แล้วก็ไปเลือกซื้อของ พร้อมกับโทรถามสูตรจากที่บ้านว่าต้องซื้ออะไรบ้าง พอพ่อเห็นว่า เราจะจริงจังกะเรื่องนี้ เลยจัดการรื้อเตา และเครื่องนวดแป้งที่บ้าน และด้วยที่เตาและเครื่องนวดแป้งเป็นแบบ ที่เค้าใช้ในอุตสาหกรรม จากที่คิดว่าทำ คัพเค้กเล็กๆไม่กี่กัน เลยได้คัพเค้กรวมๆแล้วประมาณร้อยชิ้น พร้อมกับเค้กก้อนใหญ่อีกห้าก้อน ไม่รู้เยอะรึเปล่า แต่ใช้แป้งไปเป็นกิโลเลย

และด้วยที่บ้านทิ้งการทำเบเกอรี่มานานมากแล้ว แค่ล้างครัว ล้างเตาอบ อะไรพวกนี้ ก็หมดไปครึ่งวันแล้วค่ะ แบบว่า เครื่องนวดแป้งมีหนูเข้าไปทำรังด้วยอ่ะ ต้องทำความสะอาด เช็ดล้างกันยกใหญ่

ทิ้งครัวนานไปหน่อย เละเทะมาก คุณพ่อเลยต้องมาช่วยซ่อมเครื่องนวดแป้ง กับจุดเตาให้ อั๋นกับคุณอาก็ทำความสะอาดไป

ทิ้งครัวนานไปหน่อย เละเทะมาก คุณพ่อเลยต้องมาช่วยซ่อมเครื่องนวดแป้ง กับจุดเตาให้ อั๋นกับคุณอาก็ทำความสะอาดไป

เช็ดล้างเรียบร้อย กว่าจะเสร็จ ก็แทบหมดแรงกันเลยทีเดียว

เช็ดล้างเรียบร้อย กว่าจะเสร็จ ก็แทบหมดแรงกันเลยทีเดียว

พ่อบอกว่า ไหนๆก็ล้างครัวแล้ว ต้องทำให้คุ้ม ทำเยอะๆเลย แล้วอั๋นก็เริ่มจากคัพเค้กเนยสด ซึ่งเค้กเนยสดนี้เป็นสูตรที่อาของอั๋นมั่นใจมาก อร่อยจริงๆ อิอิ

สร้างภาพนิดนึง

สร้างภาพนิดนึง นี้เอาแป้งเข้าเครื่องปั๋นด้วยตัวเองเลยนะเนี้ย

โมโมนต์นี้แหล่ะ ที่ตีไข่กับน้ำตาลจนกลายเป็นครีม มันสุดยอดจริงๆ

โมโมนต์นี้แหล่ะ ที่ตีไข่กับน้ำตาลจนกลายเป็นครีม มันสุดยอดจริงๆ

เค้าต้องตีจนครีมเริ่มตั้งยอดได้ คือ จากของเหลว แค่เราทำให้เกิดการสั่นสะเทือน มันก็สามารถเปลี่ยนโมเลกุลได้จนกลายสภาพเป็นสถานะอื่นไปเลย สุดยอดจริงๆ

แม่บอกไม่อยากให้ทำเลย ลูกสาวยิ่งเอ๋อๆอยู่ เด๋วเอามือเข้าเครื่องปั๋นยุ่งเลย คือ หนูเกินยี่สิบมาซักพักแล้วนะ ไม่น่าจะเอ๋อขนาดนั้นมั้ง (- -“)

นี่แค่ชุดแรกนะเนี้ย

นี่แค่ชุดแรกนะเนี้ย

พออบเสร็จแล้วก็รอซักพัก เค้กเนยสดก็เริ่มเหี่ยว เอ้ย ยุบตัว อั๋นก็เอามาแต่งหน้าด้วยแยมที่น้องสาวซื้อทิ้งไว้ตั้งแต่ก่อนคลอดลูก แบบว่าเห็นว่าเหลือเยอะ เลยเอามาใช้ซะเลย

สวยใช่ป่ะหล่ะ

สวยใช่ป่ะหล่ะ

อบเสร็จแต่งหน้าเสร็จ คุณพ่อกับน้องสาวก็มาช่วยกันแพ็คลงกล่อง เอามาให้คนที่กรุงเทพกิน อร่อยนะขอบอก ใครไม่ได้ชิมนี้เสียดายแทน อิอิ

แม่ครัวใหม่

แม่ครัวใหม่ คัพเค้กเนยสดทำเองกับมือ

จริงๆแล้ววันนั้นเรามีทำคุกกี้ด้วยนะ เป็นคุ๊กกี้กระเทียม เป็นสูตรของคุณอา อร่อยเหมือนกันนะ แต่มีคนบอกว่า กินเสร็จแล้วกลิ่นกระเทียมหึ่งเลย แต่ก็อร่อยดี

เค้กกระเทียม

คุกกี้กระเทียม

สรุปเอากลับกรุงเทพเยอะมากๆๆๆ ทั้งแจกทั้งกินเองเป็นอาทิตย์เลยกว่าจะหมด

แล้วอั๋นยังไม่ละความตั้งใจในการทำ cup cake นะคะ กลับมากรุงเทพ มีแต่เตาไมโครเวฟ เลยหาสูตรทำ cup cake แบบเท่าที่มี คือว่า รสชาติ ไม่ได้เรื่องเลย สรุปกว่าจะกินได้ก็อยู่ที่แก้วที่เจ็ดเลย คือทิ้งเยอะมากๆๆๆๆ อันแก้วแรกๆทำผิดสูตร มีทั้งเค็ม ทั้งแข็ง ทั้งเนื้อเละ ทั้งคาว คืออะไรที่มันทำให้ไม่อร่อยหน่ะ เกิดขึ้นหมดแล้ว ทำให้เรารู้ว่าใช้อะไรมันจะไม่ดี เช่น น้ำตาลไอซิ่งหนึ่งช้อน กับน้ำตาลทรายหนึ่งช้อน มันหวานไม่เท่ากัน ผงโอวัลติน ก็ไม่หวานเท่าผงโกโก้ เกลืออย่าใส่เยอะ ผงฟูต้องใส่พอดี อะไรพวกนี้

เขียนโปรแกรมต้องลองคอมไพล์หลายครั้งกว่าจะเสร็จฉันใด ทดลองทำขนมเค้กกว่าจะอร่อยก็ต้องมีทิ้งฉันนั้น
— ปฐมาอั๋น, กรกฏาคม 2556, กรุงเทพ

แต่แก้วล่าสุดนี้โอเคแล้ว เริ่มอยู่ตัว เดี๋ยวว่างๆจะทำแล้วจัดหน้าสวยๆดู อันนี้เป็นช็อคโกแลตฟัตต์ อร่อยมาก

อร่อยมาก แต่กว่าจะอร่อย ก็ทิ้งแป้งไปหลายขีดเหมือนกัน

อร่อยมาก แต่กว่าจะอร่อย ก็ทิ้งแป้งไปหลายขีดเหมือนกัน

แม่บอกว่า ไม่อยากให้ทำขนมเลย อ้วน น่าจะถักผ้าร้อยลูกปัดเหมือนเดิม แต่ก็นะ กุลสตรี ต้องพร้อม อิอิ งานฝีมือทำได้แล้ว ก็อยากลองงานครัวบ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็กำลังหัดอยู่

ช่วงนี้ได้งานแล้วก็อาจจะไม่ได้ทำขนมบ่อยแล้ว แต่ก็ยังไม่ละทิ้งการทำเบเกอรี่นะ ตอนนี้มันเป็น Passion ไปแล้ว การที่เราตีส่วนผสมจนได้ออกมาเป็นครีม มันเป็นความรู้สึกพิเศษที่เราบอกไม่ถูกเหมือนกัน เราหลงรักโมเมนต์นั้นไปซะแล้ว เราหวังว่า เมื่อเราทำขนมอร่อย เราอยากจะทำให้คนพิเศษได้กิน ตอนนี้คนพิเศษของเราคือคนในครอบครัวเราได้อิ่มจนเค้าเริ่มเบื่อกันแล้ว เราอยากให้คนอื่นๆได้ลองชิมบ้าง แค่อั๋นเอาใจใส่ไปกับขนม แค่นี้ขนมของอั๋นก็อร่อยที่สุดในโลกแล้ว ^_^

สุดท้ายด้วยรูปที่สวยที่สุดอีกตามเคย

ทำเค้กต้องนวดแป้งก่อน ดูอุปกรณ์ก็รู้ว่าพร้อมขนาดไหน

ทำเค้กต้องนวดแป้งก่อน ดูอุปกรณ์ก็รู้ว่าพร้อมขนาดไหน

ทริปตามรอย(ตัวเอง) 1

อยากจะรีบเขียน ก่อนที่จะลืมซะก่อน เพราะมีเรื่องดองไว้แล้วไม่ได้เขียนหลายอย่างมาก แต่รูปไม่มีนะ มัวแต่ดีใจ ไม่ได้เก็บภาพไว้เลย

อาทิตย์ที่ผ่านมา วันที่ 7-8-9 ธันวาคม อั๋นได้กลับไปที่ฟานโคเนียนอีกรอบ เป็นที่ๆอั๋นเคยอยู่เมื่อสองปีที่แล้ว ที่ๆให้ประสบการณ์ทั้งดีและไม่ดี แต่ก็โชคดีมากๆที่ได้ไปและรู้จักคนที่นั้น เป็นการเปิดโลก เปลี่ยนทัศนะคติของอั๋นไปเยอะเหมือนกัน

ถนนหน้า Arcaden ที่ Erlangen

ถนนหน้า Arcaden ที่ Erlangen

วันศุกร์ขอลางานครึ่งวัน Supervisor บอกว่า ลาได้ แต่จดเองนะ ตามสบายเลย ตอนบ่ายๆก็ออกมา แล้วนั่งรถ ยิงยาวไป Erlangen เลย เพื่อไปหาครอบครัวของ Supervisor คนเก่า ที่ดูแลเราเมื่อตอนเรามารอบที่แล้ว มาถึง Erlangen แบบ พอออกมาจากสถานีรถไฟ ความรู้สึกแรกก็คิดถึงเลย ถนนที่หน้าสถานีรถไฟที่ตอนนั้นกำลังซ่อม ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อก่อน เมืองนี้ มีแต่ที่ก่อสร้างเต็มไปหมดเลย ตอนนี้ถนนก็เป็นระเบียบสวยงาม รอบๆก็ตกแต่งด้วยไฟต้อนรับคริสมาสต์ สายรถเมล์ก็เหมือนจะเปลี่ยนไปแล้วด้วย แต่ทางเดินนี้ไม่อยากเชื่อว่าเราจะยังจำได้อยู่เลย เดินไปบ้าน Supervisor ไม่หลงเลย ตื่นเต้นนิดหน่อย ว่าเค้าจะจำเราได้รึเปล่า เค้าจะต้อนรับเราดีรึเปล่า แต่เราคิดถึงเค้ามากๆเลย

ไปถึงบ้านเค้าแล้ว แอบมองจากหน้าต่าง แอบงง มีหนุ่มตัวสูงผมยาวอยู่ในบ้าน ใช่รึเปล่าหว่า แล้วก็เดินเข้าไปประตูที่เขียนไว้ว่า Hönig (แปลว่าน้ำผึ้ง เป็นนามสกุลของเค้า) แบบน่ารักๆ แล้วเค้าก็ออกมารับ โอ้ยยยยยย แกเอร้ยยยย ซุปเค้าไว้ผมยาว น่ารักเฮียๆเลย ยิ่งกรี๊ดหนุ่มผมยาวอยู่ จำได้ว่าเห็นเค้าครั้งแรกเมื่อตอนนั้นคือ ผู้ชายตัวสูง ผอม สกินเฮด เดินมาหาเรา จับมือ เราก้มไปมองเท้าเค้า เค้ามาเท้าเปล่า! อยู่ในมหาวิทยาลัย วันนั้นเค้าตัวสูง ผอม ผมยาว ออกมาจากครัว มือถือตะหลิว เดินมากอดเรา เอร้ย คิดถึงโครตๆ จริงๆมาบ้านนี้แค่สามครั้งเอง ยังจำทางได้อยู่เลย ฮิฮิ

ไปถึงโน้น เจอพ่อของซุป ลูกสาวเค้าสองคน แล้วก็แฟนเค้า เค้าบอกว่า ขอบคุณที่ส่งช้างไปให้ ตอนแรกว่าจะเขียนการ์ดตอบ แต่ไปๆมาๆ ก็ไม่ได้ส่ง ลืม -*- เกือบลืมไปแล้ว นึกว่าส่งไปไม่ถึง ส่งให้ตั้งแต่ตอนปีใหม่ปี 2011 แล้วลูกเค้าก็เอาช้างที่เราให้ไปขี่ น่ารักอ่ะ ^^ แล้วลูกสาวเค้าก็เอาดอกไม้มาให้ เข็มกลัดเป็นดอกไม้สีม่วงขาว แล้วเค้าก็ห่อเองด้วย น่ารักมาก เลยเอามาติดเสื้อจนถึงวันนี้เลย

CameraZOOM-20121211153311722

ติดหน้าอกกับเสื้อตัวเก่ง

วันนั้นข้าวเย็นมีไส้กรอก สลัด มันฝรั่ง และ ผักดองที่เค้าเรียกว่า Sauerkraut ปกติกินที่ Bistro จะขอให้เค้าเอาออกตลอด พูดเยอรมันไม่ค่อยได้ แต่พูดว่า ไม่เอา Sauerkraut ได้หน่ะ คิดดู อาหารเยอรมันที่เราเกลียดที่สุดรองจากซาลาเปาเยอรมันที่เค้าเรียกว่า Knödel เลย เพราะอั๋นไม่ชอบกินของดองอยู่แล้ว แต่เค้าก็ทำกันตรงนั้นเลย บอกเป็นแฮนเมด ไอ้เราจะไม่กินก็เกรงใจ กลัวเสียมารยาท Y_Y กินก็ได้

คุณพ่อของ Supervisor เค้าก็รู้แหล่ะว่าเราไม่ชอบ เค้าก็เตรียมสลัดไว้ให้แล้วหล่ะ อิ่มอกอิ่มใจมาก บ้านนี้เค้าชอบมีของทำเอง น้ำผึ้งทำเอง น้ำผักดองทำเอง น้ำแอปเปิ้ลทำเอง แยมทำเอง เป็นบ้านที่น่ารักแบบแปลกๆดี จริงๆเราก็คิดว่า Supervisor คนนี้เค้าก็แปลกๆเหมือนกัน มาเห็นที่บ้านก็ไม่ค่อยสงสัยมากแล้วหล่ะ ฮ่ะๆ (จำได้ว่าเขียนเรื่อง ซุปเปอร์ไวเซอร์ว่าเค้าแปลกๆยังไง แต่เขียนไม่เสร็จ เลยไม่ได้อับเลย แต่ยังเป็น draft มาสองปีแล้ว – -a)

มีเรื่องคุยกันพอสมควรเลย ไม่เจอกันสองปี พอกินข้าวเสร็จ เค้าก็จุดเทียนกัน เป็นเทียนสีแดง จุดไว้หนึ่งแท่ง เราถามเค้าว่าทำไมจุดแท่งเดียว เค้าบอกว่า อาทิตย์ต่อไปก็จะจุดเพิ่ม มีทั้งหมดสี่แท่ง จุดเพิ่มอาทิตย์ละแท่ง พอถึงคริสมาสต์ก็ครบสี่พอดี แล้วก็นั่งร้องเพลงกันกะลูกๆ เห็นภาพคุณพ่ออุ้มลูกร้องเพลง เป็นอะไรที่น่ารักสุดๆเลย แล้วอั๋นก็ถามเค้าว่าวันคริสมาสต์เค้าทำอะไรกัน เพราะอั๋นก็ไม่เคยฉลองคริสมาสต์เลย เค้าก็บอกว่า ไปโบสถ์ แกะของขวัญ กินข้าว อะไรพวกนี้แล้วถ้ายังไง เดี๋ยวเค้าถามคนที่บ้านก่อนว่าจะชวนอั๋นไปได้รึเปล่า จริงๆถ้าไม่ชวนก็ไม่เป็นไรนะ แต่ถ้าชวน เราก็อยากไปนะ

พอเสร็จแล้ว เราก็เล่นเกม Memory คือให้จับคู่ภาพการ์ด ใครได้เยอะสุดก็ชนะ ลูกสาวคนโตของเค้าเก่งมากๆ จำแม่นมากเลย แต่เกมแรกอั๋นชนะได้ไงก็ไม่รู้ เกมที่สองน้องเค้าชนะไป แต่คุณพ่อมาเล่นกับลูกๆก่อนนอนนี้ โอ้ย คุณพ่อในฝัน เพราะบ้านอั๋น พ่อกับแม่ก็มาเล่น มาเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนตลอดเลย ติดฟังนิทานยัน ม.ต้น จนแยกห้องนอนกับน้องชายเลยหล่ะ

พอลูกสาวเค้าจะนอนแล้ว ก็ถึงเวลาต้องกลับแล้ว ลูกสาวเค้าบอกว่า น่าจะให้เราอยุ่ต่อนะ อั๋นนี้แทบอยากจะเอากระเป๋าวางแล้วอยู่ต่อเลย แต่ไม่ได้ คิวอาทิตย์นี้เรายาว ยังมีตามรอยตัวเองอีกหลายที่ หลายคน เดี๋ยวบล็อคต่อไปมาเล่าต่อ อู้นานเกินไปแล้ว 🙂

ปล. พ่อของลูกอยากได้น่ารักอบอุ่นกะลูกชายเราแบบนี้นะ รักเราน้อยกว่าได้ แต่ต้องรักลูกมากที่สุด เหมือนคุณพ่อเราด้วย ^_^

IceCream Lover No.4

Today was so hot! So I bought this drink. It was ‘Strawberry milk shake with whip-cream’. The seller put a lot of strawberry and add some milk. Super delicious! I bought it from meeting market in my university. My university (KMUTNB) provided meeting market every Monday but normally I’m not there on Monday. Every Monday I have to go to Ramkhamhang University in order to take a German course, there is an ice-cream shop at canteen which was one of my favorite, I’ll show you the picture next post. Back to Strawberry milk shake, the strawberry was so good, I still could feel the taste of fully strawberry even it turn in to the blended drink. Now I can’t wait for buying a new one next week. [cost 40 THB]

IceCream Lover No.2

image

today i just went to oishi express with my friends with the promotion; eat 4 pay for 3. Here we got the ice cream from the machine and we had to do by ourselves. that’s why i got this much. actually i didn’t mean to get this much but i don’t know how to stop the machine. by the way, the ice cream was good.