Hybrid work for 2023

สถานการณ์โลกระบาดเริ่มดีขึ้น ไม่ใช่ว่ามันหายไปหรือลดลงนะ แต่คนเรียนรู้ที่จะอยู่กับ new normal กันแล้ว ใครกลัวก็อยู่บ้าน ใครไม่กลัวก็ติดไปสองรอบ ^^”

🖥 ปีที่ผ่านมาเริ่มเข้าออฟฟิศกันแล้ว ทีมให้เข้าออฟฟิศเดือนละครั้งเอง แต่ถ้าอยากไปนั่งทำงานที่ออฟฟิศก็ไปได้ เอาตามสะดวก พอจะจำได้ว่า ต้นปี คนออกเยอะมาก ตำแหน่ง devops ไม่พอ เลยต้องย้าย role ไปช่วย devops ชั่วคราว กลางๆปีถึงได้ fade ตัวออกมาทำ dev เหมือนเดิม แต่ไปๆมาๆ ก็ไม่ได้ dev แล้วเพราะว่า อยู่ๆก็ได้ทำเป็น senior architect เฉย อย่าว่าแต่ dev เลย แค่คุยกับทีมอื่นก็เหนื่อยแล้ว จนป่านนี้ยังไม่คุ้นเลย

🤯 ที่น่าตกใจกว่านั้นคือ อยู่ๆก็มีโอกาสได้ตำแหน่งใหญ่ คิดอยู่ตลอดว่าเกินตัวมากๆ ยังไงก็ไม่ไหว แต่ก็แบบ ไม่อยากทิ้งโอกาสนี้ไป ก็คิดหนักอยู่เหมือนกันนะ จะไหวมั้ยนะปีนี้ เอาใจช่วยหน่อย ตอนนี้ยังไม่แน่ใจต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง หวังว่าจะผ่านไปได้ด้วยดีนะ

😷 แล้วก็คือ งานเยอะมากจนแทบไม่ได้ทำงานอดิเรกอื่นเลย แค่เอาตัวเองลุกไปทำงานให้ได้ในทุกวันก็เหนื่อยแล้ว บางคืนก็ต้องนอนดึกเพื่อ support งานที่ออฟฟิศ​ ป่วยเลย ทำงานเยอะ เที่ยวเยอะ นอนน้อย เลยโดน โควิดไปสองรอบเลย

🩸 ส่วนสุขภาพ ปีนี้ก็ยังบริจาคเลือดไม่ได้ ไปตรวจร่างกายมา ปกติทุกอย่าง แต่ว่าหมอไปเจอว่า เลือดจาง เลยไปเช็คละเอียดอีกที เจอว่าเป็น ภาหะทาลัสซีเมีย หมอบอกไม่มีอะไรมาก กินอาหารที่มีประโยชน์​และถ้าจะมีลูกก็มาปรึกษาหมอซะหน่อยก็ได้ ไม่ต้องตรวจใหม่แล้ว สามารถเอาผลไปให้หมอดูได้ แต่ไปปรึกษาหน่อยก็ดี

✈️ ช่วงนี้ คนก็เริ่มออกเดินทางไปต่างประเทศกันแล้ว เราเลยจัดไปสเปนเกือบเดือน work from anywhere ที่แท้จริง ก่อนไปก็ต้องเช็คว่า VPN ทำงานได้มั้ย ก็เตรียมพร้อมพอสมควร ทั้งการเดินทาง ทั้งภาษา ดีใจมากๆๆๆ เพราะสเปนเป็นภาษาที่เรียนมานานแล้ว ได้ใช้ซักที แม้จะงูๆปลาๆ ฟังออกเป็นคำๆ แต่ก็พอสั่งอาหารได้ อ่านป้ายออก ดีใจมาก ชอบบาเซโลน่ามากๆอยากไปอีก

🤿 ปีนี้ เก็บการดำน้ำได้ครบ 100 dives แล้วจ้า เย้ๆ เหนื่อยมาก มี achivement หลายอย่างที่ complete ได้ หวังว่าจะสามารถหาเวลาไปดำน้ำได้ปีละสองครั้งอย่างที่ตั้งใจ

💍 และเดือนที่แล้ว เราแต่งงานแล้วนะ เย้ ไม่น่าเชื่อ รู้จักกันมานาน นับไปนับมากเกินสิบปีแล้วนะ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้แต่งงานกัน ขอบคุณมากที่กลับมา ขอบคุณญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝั่งที่เข้าใจ เอาจริง แต่งไปงั้นแหล่ะ ให้ผู้ใหญ่สบายใจ แต่ช่วงงานแต่งคืองานเราเยอะและเครียดมาก ทั้งเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว แต่ต้องขอบคุณคุณแฟนที่เข้าใจและจัดการทุกอย่างให้ เสียใจนิดหน่อยที่ไม่ได้เลือก แต่ที่เค้าเลือกก็ดีมาก ของหลักๆที่เราอยากได้ก็ได้หมด ของหลักๆที่เค้าอยากได้ก็ได้หมด ทุกคน Happy จบ ไม่ต้องถามละนะ เค้าจะดื้อให้น้อยลง จะทำตัวให้เข้ากับทุกคนน้า — เสียดายมากที่บางคนก็ล้มหายตายจากไป ไม่ทันเห็นวันดีๆแบบนี้ ทั้งๆที่เชียร์พวกเรามาตั้งแต่เริ่มรู้จักกัน พวกเราคิดถึงหมีมากๆนะ ขอบคุณมากที่แนะนำและคอยลุ้นพวกเราตลอด

ปีนี้ต้องสนุกมากแน่ๆ แค่คิดก็เครียดแล้ว 🥴 ลองดูนะ สู้ๆ

อายุสามสิบกลางๆกันแล้ว จะเขินอะไรกันอี๊กกกก

จะบริจาคเลือด อ่าว วันนี้บริจาคไม่ได้นะคะ !?!

ทุกๆปี ในระยะ สี่ห้าปีที่ผ่านมา พอถึงวันเกิด เราก็จะมีกิจกรรมที่ทำประจำก็คือ ลางาน แล้วไปเที่ยวท้องฟ้าจำลอง แล้วก็ไปบริจาคเลือด แต่เนื่องจากปีนี้ โดนโควิดเล่นงาน หลายกิจกรรมก็ต้องงดน่ะค่ะ งดก็คือ ก็ยังทำได้อยู่ แต่ก็ต้องระวัง (ฮาาาา) ไม่เป็นไร ก็หลังจากต้อง Work From Home ตั้งแต่กลางๆเดือนมีนาคม แล้วก็ทำให้คือตั้งแต่กลับจากทริป ฟิลิปปินส์ ตอนต้นมีนาคม ก็ไม่เคยได้ออกไปไหนเกินระยะ 5 กิโลเมตรจากที่พักเลย (ที่ทำงานอยู่ห่างไปห้ากิโลไง ก็คือแค่ ห้องพัก ยิม ที่ทำงาน มีแค่นี้แหล่ะ) ก็พอถึงวันเกิด (ปลายๆเมษายน)​ ก็เลยรู้สึกว่า ป่ะ ถึงเวลาแล้ว ออกไปข้างนอกบ้าง ก็เลยจัดเลยค่ะ นอนไวๆ งดเบียร์​ งดของมัน งดชาไข่มุก แต่จริงๆคือ ช่วงกักตัว กินน้อยมากเลยอ่ะ น้ำหนักก็ลดไปหน่อยแหล่ะ ก็เลยเกิดเรื่องนี้ขึ้น

เช้าวันเกิดค่ะ (25 เมษายน) ตื่นมา อาบน้ำ แต่งหน้า (แล้วใส่หน้ากาก -_-) แล้วก็เลยรู้ว่า อ่าว อายไลนเนอร์แห้งไปแล้ว แง…​ไม่เป็นไรค่ะ

ไม่ค่อยพร้อมหรอก ไม่เคยพร้อมเลย กลัวทุกครั้งที่ไป

มาถึงแล้ว ก็ทำตามขั้นตอนเลย ซักประวัติเบื้องต้น วัดความดัน ต่างๆนาๆ จนถึงตอนจะเจาะเลือดค่ะ เจ็บ เป็นคนที่ไม่ชอบให้เอาอะไรเข้าตัวเลย รู้สึกไม่ค่อยดี เจาะกี่ทีก็น้ำตาเล็ดจะร้องไห้ แต่ก็จะร้องไห้หนักกว่าเดิมเพราะว่า

เอ้า Hb ต่ำไปหว่ะ คืออะไรหว่า คุณหมอบอกว่า Hemoglobin ต่ำไปนะคะ ปกติ ต้อง 11.5 วันนี้บริจาคเลือดไม่ได้นะคะ อ่าว กำ แล้วเค้าก็เลยส่งไปเราต่อไปที่ Donor care เพื่อเจาะเลือดแล้วเช็คผลเลือดอย่างละเอียดอีกครั้งนึง

Donor Care ห้อง 8 ปกติก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรนะ คุณหมอเคยบอก ร่างกายแข็งแรงปกติดี มาทุกสามเดือนเลยนะคะ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว

ได้ความมาว่า เพราะปกติเรา เวลาคุณหมอให้ยาบำรุงเลือดมา เราจะกินไม่หมด คือกินแค่ วันสองวันหลังจากบริจาคแล้วไม่กินต่อ ก็จะมีผลทำให้ Hb ต่ำ เฮ้ย เมื่อคืนเราก็นอนไวนะ จริงๆก็รู้ตัวแหล่ะ ว่ากินน้อยมาก กินข้าววันละมื้อ ไม่ได้กินอะไรบำรุงเลือดเลย แต่ก็เอาเถอะ วันนี้ไม่ได้ไม่เป็นไร คุณหมอก็ให้ยาบำรุงเลือด บำรุงธาตุเหล็กพวก Folic มากิน ให้กินเช้าเย็นเลย แล้วบอกว่า ยานี้ จะหมดตอนใกล้ๆจะครบเดือนพอดี ให้กินเช้าเย็นจนหมด พอประจำเดือนหมดก็มาได้ อย่าให้เกินนี้หนึ่งเดือนนะคะ

บำรุงหนักมาก อึเป็นสีดำทั้งเดือน บอกเลย

จากนั้นก็เลยต้องกลับบ้านไป หลังจากวันนั้นก็กินยาบำรุงเลือด เช้า-เย็นเลย พอครบสี่อาทิตย์ ก็ได้เวลาค่ะ (24 พฤษภาคม) ไปอีกรอบนึง รอบนี้คือ นอกจากจะบริจาคเลือดแล้ว แต่ที่อยากรู้ก็คือค่าเลือดจะดีขึ้นรึเปล่า ในเวลาหนึ่งเดือน นอกจากคุมอาหารอย่างมีวินัย เราก็กินยาอย่างมีวินัยด้วย วันนี้ก็ครบเดือนพอดี พร้อมค่ะ ออกบ้านไปบริจาคเลือดอีกครั้งนึง พร้อมกับงดของมันของทอด งดเบียร์ด้วย

พอมาถึงตรวจโน้นนี่นั้น คุณหมอเจาะปลายนิ้วเจ็บอีกแล้ว (T_T) ผลก็ออกมาค่ะว่า ผ่านแล้ว!! โห ดีใจมาก บริจาคเจ็ดครั้งที่ผ่านมา นอกจากครั้งแรก ก็ครั้งนี้แหล่ะ ที่ตื่นเต้นกับผลตรวจเลือด กลัวมาเสียเที่ยวอีก แต่เนื่องจากเดือนที่แล้วเค้าไม่ให้บริจาค ครั้งนี้ก็ยังต้องไปเช็คผลกับทาง Donor Care อีกรอบนึง คุณหมอบอกว่า รอบนี้บริจาคได้นะคะ แต่ว่า จะขอให้เก็บผลเลือดจากตอนที่บริจาค แล้วให้หลอดเก็บผลเลือดมาอีกชุดนึง เพื่อเป็นการอัพเดทอีกรอบนึง แล้วก็จะมีให้ยาบำรุง(เหมือนเดิม) อีกชุดนึงไปกินต่อ ครั้งต่อไป ถ้ามาก็มาเช็คที่นี่อีกรอบนะคะ

ผ่านแล้ว เย้ๆ แต่ครั้งถัดไป ก็ต้องมาเช็คอีก นี่คือ อีกสามเดือนต้องมาใหม่ใช่มั้ย มาอีกทีปีหน้าได้มั้ย ปกติบริจาคแค่ปีละครั้ง

พอเช็คทุกอย่างแล้ว ก็ได้บริจาคแล้ว เนื่องจากตอนนี้ เค้าลดความแออัดของผู้ให้บริจาค เค้าเลยให้ไปนั่งอีกชั้นนึง วิวสวย ที่นั่งสะดวกสบาย แล้วรอคิวชิลๆ โชคดีที่วันนี้คนโล่งๆ ปกติมานี่คนแน่นเลย แต่ไม่แน่ใจว่าเพราะเค้ากระจายที่นั่งรอเพิ่มรึเปล่านะ แต่รู้สึกว่า วันนี้รอไม่นานเลย

วิวชั้นเก้า ใจกลางเมือง

โห นี่บริจาคปีนี้ ฉันใช้เวลาเตรียมตัวนานเป็นเดือนเลยนะ เพื่อเลือด 400 cc เนี่ย ใครจะบริจาคเลือด ก็รักษาสุขภาพให้แข็งแรง แล้วก็กินยาบำรุงเลือดให้ครบตามคำแนะนำด้วยนะคะ

เจ็บปวดมาก น้ำตาเล็ด แต่ตอนนี้เก่งแล้ว แค่น้ำตาเล็ด ไม่ร้องไห้แล้ว

ปล. และเนื่องจาก ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ? แปด แล้วมั้ง และครั้งก่อนหน้านี้ตอนเดือนสิงหาปีก่อน เราไปบริจาคที่หน่วยบริการเคลื่อนที่ที่ออฟฟิศ เค้าก็เลยไม่ได้ออกใบให้ แล้วมาให้ตอนนี้แทน ตอนนี้มีใบประกาศ และมีเข็มให้ด้วย เฮ้ย ตื่นเต้น ปีนึงบริจาคครั้งสองครั้งเอง ครบเจ็ดครั้งตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ได้นับเลย เย้ๆ เก่งมากเจ้าอ้วน

รับมาอย่างงงๆ อ๋อๆ ค่ะ
โอ้ย แค่เจาะเลือดตรวจก็จะเป็นลมแล้ว นี่เอาเลือดออก 400 cc รอดมาก็เก่งแล้ว

บันทึกป้าฟิตเนส: ทดลองเต้น Poledance ต่ออีกซักเดือนละกัน

สวัสดีค่ะ

บันทึก การทดลองเรียน Poledanceครั้งแรก https://wp.me/pJ8JX-10f

จริงๆปีนี้ เรากะว่า จะเต้น Poledance ซักเดือนละครั้งสองครั้งพอ แต่กลายเป็นว่า ไปซื้อ pack แบบเหมา 10 ครั้งในหนึ่งเดือนมา ช่วงนี้เลยเล่นถี่มาก จริงๆหายไป ไม่ได้เล่นตั้งแต่ปีใหม่ เพราะมีทริปเที่ยวทั้งเดือนเลย เพิ่งได้มาเริ่มเล่น จริงๆถ้าพักยาวๆ กลับมาอีกที แทบจะเริ่มใหม่เลย แต่ว่า ก็ไม่ได้ลำบากขนาดนั้น วันนี้ ว่างๆ ก็นอนดูวิดีโอ เลยอัพเดทหน่อยดีกว่า ก็เห็นชัดเลยว่า ก่อนปีใหม่ กับตอนนี้ ดูดีขึ้นเยอะ หมายถึง แข็งแรงขึ้นนะ ไม่ใช่หุ่นดีขึ้น ตอนนี้ยังเป็นหมูบินอยู่ดี

เมื่ออาทิตย์ก่อน มีโอกาสไปเข้าคลาสเย็น แล้วก็เกิดอาการมึนหัวขึ้นมาซะงั้น เฮ้ย นี่เรสคิดว่า เล่น Poledance จะไม่เป็นนะ ครั้งนี้มึนซะงั้น หมุนไป ดมยาดมไป จิบน้ำไป เลยคิดว่า อาการมึนหัว น่าจะเกิดจากเหนื่อยเกินไป เพราะเราก็เล่นหลังเลิกงานไง พลังงานหมด แต่พิลาทิส หลังเลิกงานไม่เป็นไรนะ เพราะไม่มีท่าที่หัวแกว่งๆมั้ง กลายเป็นว่า คลาสหมุนๆ แกว่งๆ แอ่นหลังเยอะๆ รวมไปถึง Poledance จะเข้าหลังเลิกงานไม่ได้เฉยเลย เศร้าจัง

ตอนนี้ ปวดทั้งขา ทั้งแขน ทั้งพิลาทิส ทั้งโพลแดนซ์ รวมๆกัน ไหวแหละแก วิดีโอ ก็เอาแค่ของเดือนนี้ละกัน อันเก่าๆ เอาไว้เก่งกว่านี้ ก็เอาไว้เทียบดูความเปลี่ยนแปลงละกัน 555

1 Feb 2020

8 February 2020

14 February 2020 รอบนี้ไงที่มึน เต้นเสร็จก็ต้องกลับไปทำงานยันตีสองด้วยนะ

15 February 2020

22 February 2020

รอบนี้ก็ไหวอยู่นะ ก็ยังยืนยันว่า คนอ้วนเล่นได้นะ ฮะๆๆๆ ครั้งต่อไป ลองเวลสูงขึ้นได้รึยังน้า….

บันทึกป้าฟิตเนส: ทดลองเป็น Polerina

เดือนที่ผ่านมาค่ะ ไปเรียนเต้น Pole Dance มา ที่ไปเนี้ย ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปเล่น Pole Dance นะ พอดีที่ Studio Fly me to the moon เค้ามีโปรโมชั่น แล้ว ส่วนตัวอยากลองเล่น Aerial Hoop มานานแล้ว ก็ติดตามจากเพจของ Studio นี้นี่แหล่ะ เลยซื้อ Package มาลองดู แต่ว่า พอซื้อแล้วก็ต้องไปเที่ยวต่างประเทศอีกเกือบสองอาทิตย์พอกลับมา Package ที่ซื้อ ก็ใกล้จะหมดอายุอีก เลยต้องรีบไปใช้ พอเช็คตารางดูแล้ว อาทิตย์นั้น มีว่างแค่ไปเล่น Pole Dance เอ้า ลองดูก็ได้ค่ะ สู้ๆ

วันแรกไปเล่น ตึงไปหมดเลยค่ะ ครูก็จะสอน ยืดเหยียด ทำความคุ้นเคยกับเสา แล้วก็สอนเป็น routine เต้น ซึ่งปกติ คลาสพวกนี้ ตอนต้นคลาส ครูก็จะบอกว่า จะเต้นเพลงอะไร Big Pose ของวันนี้คืออะไร ด้วยการที่เพิ่งไปครั้งแรก ครูก็จะมาสอน Basic การขึ้นเสา ตอนแรกก็จะยากนิดนึง พอทำเป็นแล้ว ครั้งต่อไปก็จะไม่ยากแล้ว (มั้ง) ซึ่งเค้าก็จะมีระดับของความยากอยู่ เราเพิ่งไปครั้งแรกๆ ก็จะต้องเจียมตัวหน่อย ไม่ต้องขึ้นสูง แต่พอจบหนึ่งท่า ก็เหงื่อท่วมแล้วค่ะ จบคลาสนี่ แขนขาแดงไปหมด ครูบอกว่า เป็น Pole Kiss นอกจากนั้นแล้ว ก็จะปวดแขนนิดหน่อยด้วย เหมือนต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนที่ไม่เคยใช้ (ก็ใช่ซิ จะเคยใช้ได้ไง ตอนไปยิม เทรนเนอร์ให้ดึงข้อ ยังยกตัวเองไม่ขึ้นเลย)​ แต่ว่า รู้สึกดีกว่าเล่น Aerial Fly นะ เพราะผ้าไม่รัดขา ตอนลองเล่นอีกรอบ (ด้วย Package นี้แหล่ะ) ก็จำได้เลยว่า ทำไมถึงเลิกเล่น แต่ก็สนุกนะ สนุกทั้งสองอย่างเลย พอดีไปเล่นวันเสาร์อาทิตย์ พักผ่อนมาเต็มที่ ไม่มีอาการมึนหัวแต่อย่างใด ทั้งสองคลาสเลย แต่ว่า เรารู้สึกดีกับ Pole Dance มากกว่า อาจจะเพราะเสามันไม่แกว่งไปมา เหมือนผ้า Hammock มั้ง

นี่ก็ หนึ่งเดือนแล้ว ก็จะได้ประมาณนี้

ก่อนเข้าคลาสก็มีความกังวลอยู่เหมือนกัน เพราะว่า เราก็ไม่ใช่คนหุ่นดีไง เห็นตามวิดีโอ คือคนเล่น Pole Dance คือพวกคนตัวเล็กๆ แต่ดูแข็งแรงทั้งนั้นเลย ก็ถามเค้าก่อนเลยว่า คนอ้วนเล่นได้ไหมคะ เค้าบอก เล่นได้สบายมาก เด็กๆก็เล่นได้ คนแก่ก็เล่นได้ คนอ้วนก็เล่นได้ แบบนี้ก็สบายใจละ เค้าก็จะแนะนำว่า การแต่งตัวคือต้องใส่ SportBra กับ กางเกงขาสั้น แล้วห้ามทาโลชั่นมาด้วย เพราะจะทำให้ลื่น ถามว่ากังวลมั้ยว่า ใส่แค่ Sport Bra บอกเลยว่า อยากใส่แค่นี้มาออกกำลังกายนานแล้วค่ะ พอเข้าคลาสแล้ว เราก็ไม่กังวลเรื่องรูปร่างแล้ว กังวลเรื่องอื่นมากกว่า ฮะๆๆ ว่ากันว่า การเล่น Pole Dance คือการเพิ่ม Self Esteem เหมือนกันนะ I love my waist ฮะๆๆๆ จริงๆถ้าผอมลงอีกหน่อย แล้วก็แข็งแรงอีกหน่อย น่าจะโอเคนะ สิ่งที่เราสามารถรู้สึก(ไปเอง)ได้ทุกครั้งที่ออกกำลังกายคือดิฉันแข็งแรงขึ้นทุกวันค่ะ

อยากเล่นต่อจังเลยค่ะ เดือนหน้าซื้อต่ออีกซักแพ็คก็แล้วกัน

บันทึกป้าฟิตเนส: คาดิโอไม่ไหว ขอโยคะได้ไหม

คลาสนึงที่ป้าชอบก็คือ areal flow yoga ค่ะ เป็นโยคะบนผ้า ส่วนตัวคิดว่าง่ายกว่าที่เล่นบนเสื่อ ทั้งที่ใช้แรงพอๆกัน เพราะมีผ้าช่วยทรงตัว จริงๆชอบโยคะบนผ้ามาก แต่ที่ไม่ได้เล่นแล้วเพราะป้าติดใจคลาสเต้นแล้วเวลามันทับกัน แล้วต้องแบกถุงผ้าไปไหนมาไหนเองด้วย หลังจากซักไปแล้วเมื่อกลางๆปีก่อน ก็แทบไม่ได้เอาออกมาเล่นเลย ปีนี้ตั้งใจจะกลับไปเล่นโยคะให้มากขึ้น เพิ่มความบาลานซ์และท่ายากให้ตัวเอง

เพื่อนๆเคยถามว่า กว่าจะขึ้นบนผ้าได้ใช้เวลานานรึเปล่า จริงๆ แค่กล้าก็ขึ้นได้เลยนะ แต่ถ้ามีท่าที่ต้องใช้ความแข็งแรง ก็ต้องฝึกหน่อย พอได้เล่นจะรู้ว่า ร่างกายเราแข็งแรงขึ้นทุกอาทิตย์

ปีก่อนได้ไปลองคลาส yoga fly ที่สตูดิโอแถวอโศก หนักใช้ได้เลย แต่สนุกมาก มีพวกเต้นๆแบบเต้นบนผ้า หมุนๆอะไรแบบนี้ด้วย ว่าจะไปเล่นอีก แต่ขอเก็บเงินก่อน เล่นที่ยิมแถวบ้านไปก่อน ออกกำลังกายเหมือนกัน
หลังๆนี้ป้าเริ่มเบื่อคลาสเต้นแล้วค่ะ ยิมแถวบ้านจะมีคลาสโยคะร้อนทับกับคลาสเต้น ช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ป้าก็เลยเข้าคลาสโยคะร้อนแทน หลังจากที่หายไปนานมาก คลาสที่เข้าก็ยากมาก แต่ยังไหวอยู่ ค่อยๆปรับตัวใหม่

ประกอบกับอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ออกกำลังกายพวกคาดิโอหนักไปหน่อย วิ่งเยอะด้วย เท้าเลยพังเลย ตอนนี้ เล็บเท้าม่วงไปแล้ว ช่วงนี้เลยไม่อยากใส่รองเท้าผ้าใบ แต่ก็ยังอยากจะออกกำลังกาย วันนี้ก็เลยจะไปเล่น areal flow แทน คิดว่า น่าจะไหวนะ… ไม่ได้เล่นมาหลายเดือนแล้ว

ยังไม่เก่งเท่าไหร่ ต้อง Strong ค่ะ

บันทึกป้าฟิตเนส – ปกติเล่นสาขาไหนหรอครับ?

สวัสดีค่ะ ยิมที่ป้าเป็นสมาชิกอยู่ จะเลือกได้ว่า จะไปเล่นสาขาไหนก็ได้ ป้าเป็นสายตระเวนไปทั่ว ถ้าเป็นช่วงที่ยิมลอนช์ใหม่ๆนะ ไปเยี่ยมแบบ เจ็ดวันไม่ซ้ำเลย แล้วนี่ โรคจิตไง ไปสาขาไหนครั้งแรกๆ จะเต้นหนักมาก ครูสอนอาจจะตกใจ อีป้านี้มาจากไหน ทำไมเต้นเก่ง ส่วนใหญ่ก็จะมาถามว่า ปกติเล่นที่ไหนหรอครับ เราก็….เฮ้ย ปกติกูเล่นที่ไหนวะ ก็เล่นแถวๆเส้นรัชดาน่ะค่ะ เปลี่ยนไปเรื่อย แล้วว่าวันไหนมีคลาสที่อยากเล่น อิอิ

ถ่ายรูปกับสเตปสามเวอร์ชั่นเลย กว่าจะได้ครบ ไปเกือบรอบกรุงเทพเลยรู้มั้ยพี่ชาย ไหนๆก็มาทางนี้แล้ว เอาให้สุด

p_20160723_120104_bf-1

p_20160814_170518_bf

p_20160719_112751_bf-1

 

สุดท้าย เพื่อนแอบถ่ายมาให้ ชอบมากๆ บินๆๆๆๆ

1468415853032.jpg

ทดลองวิ่งฮาร์ฟมาราธอน

อาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ ป้าได้เกิดใหม่ในการวิ่งระดับ ฮาร์ฟมาราธอนแล้ว ป้าวิ่ง 21 กิโลจบแบบเจ็บเล็กน้อยค่ะ

มันเกิดขึ้นได้ยังไง คือ เมื่อตอนกลางๆปี เพื่อนคนจันทบุรี @Dragonoss ชวนเพื่อนๆไปวิ่งมาราธอนกัน หลายคนก็สนใจค่ะ ถือว่าไปเที่ยวกัน แล้วก็ท่านประธาน @scomma ค่ะ บอกว่าจะลง 21 กิโลเมตร แล้วก็ชวนป้าลง ป้าก็บอกว่า ถ้าป๊อบลง เราก็ลง เค้าก็ลง 21 กิโลเมตรค่ะ เราก็… เฮ้ย แม่งลงจริงหว่ะ ประกอบกับ พี่ที่รู้จักที่เป็นคนจันทบุรี ชื่อพี่ทัน ก็บอกว่า เค้าก็จะลงนะ แต่เค้าจะลง Full Marathon เลย ครั้งแรกของเค้าด้วย พอดีจัดที่บ้านเกิด เลยจะเปิดซิงที่นี่เลย น้องอั๋นลงซิ ไหนๆก็วิ่ง 10 กิโลเมตรมาหลายงานแล้ว พอมีคนยุแบบนี้ ก็เลยตัดสินใจลง 21 กิโลเมตรเลยค่ะ เปิดซิง Half Marathon

จำไม่ได้ว่าสมัครเมื่อเดือนไหนนะ แต่ว่าก็ไม่ได้วิ่งเลย ได้แต่เข้าคลาสเต้น ช่วงนั้นก็ ไปบ้างไม่ไปบ้าง เพราะเที่ยวตลอด ชั่วโมง สองชั่วโมง ตามประสาป้าฟิตเนส พอเมื่อเดือนสิงหาคม สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อั๋นมีงานวิ่ง Human Run ของนิตยสาร A Day น่ะค่ะ คือ จริงๆจำไม่ได้ด้วยว่าตัวเองสมัครไว้… เหมือนจะสมัครวิ่งงานอื่นด้วย แล้วก็ขาย BIB ไป งานนี้จริงๆก็อยากขาย BIB ต่อมาก แต่ก็คิดว่า เออ… เดี๋ยวมีงานใหญ่รออยู่ ถือว่าซ้อมวิ่งก็แล้วกัน ไม่ได้วิ่งนาน

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เหนื่อยม้ากกกกก จุกตั้งแต่กิโลเมตรที่สอง วิ่งได้ ไม่ให้ Pace มากกว่า 8 Min/km. ก็แย่แล้ว คือเดินตั้งแต่ กิโลเมตรที่ 4 กันเลยทีเดียว จากที่เคยวิ่ง สิบโล ประมาณชั่วโมงนิดๆ รอบนี้ซัดไป เกือบชั่วโมงยี่สิบ Pace ไม่แตะแปด ก็บุญแล้ว อะไรงี้ ทั้งๆที่เมื่อสองเดือนก่อน ทำได้เฉลี่ยแค่ 7.09 min/km เอง

screen-shot-2016-11-22-at-10-35-20-pm

Pace เฉลี่ย เกือบแตะ แปดละ แต่จริงๆก็ หลังๆก็เดินซะมากกว่า

screen-shot-2016-11-22-at-10-36-42-pm

เออ เดินตั้งแต่กิโลเมตรที่สี่ เพิ่งจะวิ่งก็ตอนใกล้ๆจะจบ

พอรู้ตัวว่าวิ่งแย่มาก งานนี้  พี่ทันบอกว่า เดี๋ยวเจอกันที่งานจันทบุรี ลงฮาร์ฟ ถ้าซ้อมก็ให้วิ่งต่อกันซักสองชั่วโมงได้ก็โอเคแล้ว ก็เลยซ้อมวิ่งเรื่อยๆ แต่ครั้งละไม่เกินหนึ่งชั่วโมงแหล่ะ จริงๆก็ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ เอาเวลาไปเข้าคลาสหมด พอจะมาวิ่งก็ดึกแล้ว แถมบางวัน เข้าคลาสหนักมาก ขาไม่แรงซะงั้น แต่ก็วิ่งเรื่อยๆแหล่ะ ให้ชินกับความเหนื่อย

เอาจริงๆ พอวันงานจริงใกล้จะถึง ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่คาดคิด ก็ทำให้กิจกรรมโดนเลื่อนออกไป ที่แย่ก็คือ เลื่อนไปตรงกับที่ท่านประธานมีนัดไปเที่ยวซะแล้ว อ่าว กูวิ่ง 21 กิโลฯ คนเดียว… แต่ก็ค่อยโล่งใจ ที่มีคนเปิดซิง 21 กิโลเมตรเหมือนกัน คุณภัท @foamschool ก็ลงวิ่ง 21 กิโลเมตรด้วย เย้ๆ คือมีคนวิ่งระยะเดียวกันก็ดีคือ จะไปถึงสนามพร้อมกัน แล้วก็เสร็จเวลาน่าจะพอๆกัน เพราะว่าคนอื่นลงวิ่ง 10 กิโลกันทั้งนั้น ทีมวิ่ง 10 กิโลเมตรก็มี @officialyui, @natthaof แล้วก็ @obdae เยี่ยมเลย

นี่คือระยะที่วิ่งค่ะ จะเห็นว่า ช่วงกลางๆ กิโลเมตรที่ 8-14 จะชันเลย วิ่งขึ้นเขาค่ะคุณณณณณ เนินอย่างโหด เขาเจ้าหลาว วิ่งต่อไป จะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำจันทบุรี สวยมาก แผนที่ทำดีนะคะ บอกระดับความชันของสนามวิ่งด้วย

csm_route_21_030916-1.jpg

เราก็ออกจากที่พักตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง เริ่มวิ่งตีห้า ตื่นเต้นมาก คือก็กะว่ายี่สิบเอ็ดกิโล ก็น่าจะไม่ให้ pace เกิน 8 min/km ก็ได้ มันวิ่งยาว เก็บแรงหน่อย นี่ครั้งแรก ซักสามชั่วโมงก็ได้ ระยะ half marathon มีผู้เข้าร่วมประมาณพันห้าร้อยคน เฮ้ยเยอะหว่ะ สิบกิโล อีสทูเมนสตีมแล้วใช่มั้ย

P_20161120_044854.jpg

เราวิ่งเลียบถนนหาดเจ้าหลาว ช่วงที่เป็นหาดคือ สวยมาก แถมเป็นช่วงพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นนะ โอ้ย สวย แต่ไม่ค่อยได้เก็บภาพหรอก เขาเจ้าหลาวคือเนินโหดดี วิ่งมาหลายงาน เนินที่นี่ชันสุด วิ่งขึ้นไม่ไหว ต้องเดินเอาแหล่ะ

img_20161120_060623

P_20161120_064453.jpg

เราได้ถ่ายภาพอีกทีก็ตอนถึงสะพานข้ามแม่น้ำจันทบุรี หลังจากผ่านเขาเจ้าหลาวแล้ว ตรงนั้นจะเป็นช่วงกลับตัวพอดี เราไปถึงก็ประมาณหกโมง ยังไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ เห็นได้จาก ไฟถนนยังเปิดอยู่เลย เห็นตรงนี้แล้วก็ชื่นใจ เอร้ยยยยย ครึ่งทางล้าวววว ชั้นใช้เวลาชั่วโมงเดียวเอง เก่งมากเจ้าอั๋น

Jpeg

P_20161120_061815.jpg

จริงๆตอนวิ่ง เตรียมเพลงคลาส BodyJam ไว้ เปิดสองคลาสก็น่าจะใช้เวลาที่สองชั่วโมงครึ่ง หมดเพลงคลาส BodyJam ไปสองคลาส ยังไม่ถึงเส้นชัย เหนื่อยก็เหนื่อย ช่วงกิโลเมตรที่ 18-20 ก็เดินๆวิ่งๆ เล่นเฟสบุ๊คบ้าง พอดีเห็นเพื่อนที่วิ่ง ห้ากิโลเมตร บอกว่าเข้าเส้นชัยแล้ว พวกที่วิ่ง 21 ก็ทะยอยเข้าเส้นชัยกันแล้ว อีนี่เหลืออีกประมาณสองกิโล เอาวะ รวบรวมกำลังชุดสุดท้าย วิ่งๆ สุดท้ายก็จบจนได้ รู้สึกดีใจ เกิดใหม่ในระยะนี้

https://plus.google.com/u/1/+PatamaRamchune/posts/dN9T7HoaKhV

ไปๆมาๆ ก็วิ่งเรื่อยๆ ได้ pace 6 กว่าๆ ถึง 7 ต้นๆเองนะ มีบางช่วงที่เริ่มเหนื่อยบ้าง pace ถึง 9 เลยก็มี แต่ว่า เฉลี่ยแล้วก็ยังออกมาดีอยู่ แถมทำเวลาไม่เกินสามชั่วโมงด้วย นี่ครั้งแรกที่เราวิ่ง Half Marathon เลยนะ ไม่เหนื่อยเท่าที่คิด อาจจะเพราะ เราซ้อมวิ่งเรื่อยๆ แล้วก็ออกกำลังกายตลอด BodyStep คงมีส่วน ไว้รอบหน้า จะจบแบบไม่เจ็บ ขอซักสองชั่วโมงครึ่งก็แล้วกันนะ นี่ First finisher T-shirt เลยนะคะเนี้ย เราพอรู้มาอีกว่า คนที่วิ่ง Full Marathon เสร็จ เสื้อจะมีชื่อพิมพ์ไว้ด้วยนะ เท่มาก แต่คงไม่ไหว

Jpeg

ที่เจ๋งคือ เหรียญสวยมาก ประทับใจ คือเป็นรูปพะยูน แล้วก็มีพลอยประดับไว้ด้วย สำหรับคนที่วิ่งมาราธอน จะได้เป็นเพชรประดับที่เหรียญแหล่ะ

Jpeg

แต่วิ่งเสร็จนี่ ตายเลย ปวดหัว ปวดขา ปวดหลัง หลับไปยาวๆเลย เช้านั้น วันจันทร์น่ะหรอ… ลาป่วยค่ะ ซัดยาแก้ไข้ไปสองเม็ด หลับทั้งเช้าเลย แต่ถ้าจะลงรายการวิ่งอีก ก็คงไม่กลับไป มินิฮาร์ฟมาราธอนแล้วแหล่ะ เพราะว่า ป้าเกิดใหม่กับระยะ Half Marathon แล้ว อิอิ

สรุปสถิติค่ะ! ถึงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ว่า ก็ไม่เลวสำหรับครั้งแรกนะ ครั้งต่อไป ไม่มีเจ็บค่ะ เห็น split มั้ยคะ นี่วิ่งหกเลยนะคะ ฟิตป่ะหล่ะ อ๋อ…ช่วงนั้นเป็นทางลงเขา ฮะๆๆๆscreen-shot-2016-11-22-at-11-26-35-pmscreen-shot-2016-11-22-at-11-27-12-pm

screen-shot-2016-11-22-at-11-29-57-pmscreen-shot-2016-11-22-at-11-30-08-pm

สุดท้ายตามเคย รูปของทริปนี้ ไม่เกี่ยวกะรูปวิ่ง
แต่นี่คือสภาพตอนตื่นหลังจากหลับเป็นตาย
จากการวิ่งอันหนักหน่วง
ไม่รู้ซิ ตื่นมาก็เป็นแบบนี้เลย ทริปนี้ พอก็รู้ข่าวดี ก็สวยเลย

Jpeg
มอนิ่งนะคะ

คิดถึงหมี

เมื่อวันก่อน แฟนหมีบอกว่าจะรวบรวมเงินจัดทำหนังสือสวดมนต์ พอมีโอกาสก็ร่วมบุญด้วย อยู่ๆเมื่อคืนก็คิดถึงแกหว่ะ มีไม่กี่คนที่เราคุยด้วยทุกเรื่อง หนึ่งในนั้นก็แกหล่ะ แกเป็นพวกมาแปลกชอบเล่าเรื่องตัวเองก่อน แล้วค่อยตะล่อมถามเราอีกที ฮะๆๆ เราก็เล่าเรื่องของเราเนอะ คิดว่า เพื่อนหลายคนคงวางใจเล่าเรื่องไม่สบายใจให้แกฟัง รู้ข่าวว่าแกป่วยตั้งแต่กลางๆปีที่แล้ว เพื่อนๆก็ให้กำลังใจมาตลอด เป็นคนแรกๆเลยที่ทำให้เพื่อนๆมารวมตัวกันเร็วขนาดนี้ คิดถึ้งงงง คิดถึง เสียดายไม่ได้ไปส่ง รออีกหน่อยก็ไม่ได้ ฮะๆๆ แฟนแกก็ดี๊ดี ดีขนาดแบบ ถ้าเรามีแฟนก็ไม่รู้ว่าจะรักเค้าได้เหมือนเค้ารักแกรึเปล่า เรานะมีเรื่องคุยกะแกเยอะแยะเลย เหมือนที่ทุกทีที่เราคุยกับแกนั้นแหล่ะ ^^

อยู่โน้นท่าทางสบายเนอะ เจ็บมานาน ใกล้จะครบสองเดือนที่แกไม่อยู่แล้ว เดี๋ยวครบร้อยวัน จะไปช่วยงานที่บ้านแกนะ 🙂

คิดถึงหมีมากๆ

อั๋น

บันทึกป้าฟิตเนส: ผู้หญิงแถวหลัง

ช่วงนี้ยิมแถวบ้านที่ป้าเล่น หลายคลาสจะมีรีรีสใหม่มาเต้น แล้วจะเต้นซ้ำๆไปอีกเกือบเดือนเลยค่ะ ถ้าใครเล่นยิมสีเดียวกะป้า แล้วเพิ่งหัดเข้า แนะนำให้ เข้าช่วงนี้เลยค่ะ กำลังดี เพราะเดือนนี้ จะเต้นรีรีสเดียวทั้งเดือน (แต่อื่นนี่ เค้าเต้นกันไปตั้งแต่ก่อนปีใหม่แระ ฮึ)

ยังไงก็แล้วค่ะ เมื่อเดือนก่อน ไปเจอวิดีโอนี้เข้า คือแบบ…เฮ้ยแก ป้าฟิตเนสอ่ะ

ป้าเป็นใครคะ แม่นทุกท่า ขนาดลอนช์คลาสแรก ป้าก็เต้นเป็นแล้ว เข้าโยคะทีก็แบบ ตัวอ่อนแทบจะเลื้อย อีนี่ก้มจับข้อเท้าตัวเองนี้ ตึงยันหลัง

เอาเถอะค่ะ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเล่นได้ทุกคลาสแบบสวยงาม บางคนเก่งบอดี้แจมมาก แต่พอมาเต้นแค่ อีซีมูฟ ยังเต้นตามไม่ถูกเลย บางคนก็ปั้มแข็งแรงมาก แต่คาดิโอแรงๆก็หอบเหมือนกัน คนเล่นใหม่ๆอาจจะยังยั้งมือไม่ได้เล่นแรงมาก ก็ดีสำหรับเริ่มต้นนะคะ ค่อยๆตามไป จริงๆแค่อยากจะแนะนำมือใหม่หัดเข้าคลาสเฉยๆ ก่อนจะเป็นผู้หญิงแถวหน้า ทุกคนต้องผ่านการอยู่แถวหลังมาก่อนทั้งนั้น จริงๆตอนนี้ก็ยังไม่ได้อยู่แถวหน้านะ วิ่งเข้าคลาสไม่ทัน ฮะๆ อันนี้ส่วนตัวนะคะ คิดว่าแต่ละคนคงมีแนวทางต่างกัน

ตำแหน่งที่ยืนในคลาส
– สำหรับคนมาใหม่ๆ แรกๆ แนะนำแถวที่ดีที่สุด คือแถวประมาณกลางๆค่ะ ระดับที่ เห็นคนสอนง่ายๆ และ มีคนอยู่ข้างหน้า เพราะคนสอนจะเต้นเป็น mirror และหันหน้าหาเรา บางทีอาจจะงงเรื่องการก้าวเท้าซ้ายขวา เราอาจจะต้องดูเพื่อนข้างหน้าแทน เพราะเค้าไปทางเดียวกัน คลาสไหนป๊อบปูล่า คนเข้าเยอะมากๆ อาจจะต้องใช้ความสามารถส่วนตัวนิดนึงในการเข้าถึงนะคะ เป็นกำลังใจให้
– แต่ไม่อยู่ข้างหลังจนเกินไป เพราะจะมองไม่เห็นคนสอน อีกอย่างนึงที่ไม่แนะนำคืออยู่หน้าสุด จะได้เห็นชัดๆ อันนี้ไม่แนะนำ สำหรับที่ๆเป็นเวทีค่ะ เพราะหน้าสุด เรามองเห็นไม่เต็มตัว
– อีกอย่างนึงคือ บางคลาส ที่เคลื่อนไหวเยอะๆ และเจ้าที่แรง อาจจะมีกระทบกระทั่ง หมุนชนกันได้ เจ้าที่แถวหน้าส่วนใหญ่ก็ใจดีนะ ที่จะหงุดหงิดกับหน้าใหม่ก็จะเป็นพวก ป้าๆที่เต้นตามไม่ทันมากกว่า (ฮาาาา)

Jpeg

ชุดออกกำลังกาย
– ควรเตรียมไว้ให้เหมาะสม ถ้าคลาสเต้น หรือ คาดิโอ อาจจะใส่เสื้อยืด ก็ได้
– ในคลาสโยคะ ส่วนตัวเลย ไม่แนะนำให้ใส่เสื้อยืด หรือเสื้อย้วยๆ เวลาใส่เสื้อยืดคือ พอมีท่าก้มๆทีไร คอเสื้อมันมาปิดจมูกทุกที หายใจไม่สะดวกค่ะ แนะนำเป็นเสื้อกล้าม หรือ เสื้อออกกำลังกายค่ะ สวยด้วย บางคนหุ่นดีหน่อย ใส่แค่สปอร์ตบรา อิจฉาาาาา
– คลาสคาดิโอ ที่ไม่ใช่คลาสมวย คลาสยกน้ำหนัก กับจักรยาน ไม่ต้องใส่ถุงมือค่ะ เห็นแล้วร้อนแทน บางคนอาจจะชอบนะ แต่แบบ แก คลาสเต้น ใส่ถุงมือทำไม แทบไม่ได้จับอะไรเลย ร้อนอีกตังหาก เวลาเข้าบอดี้สเตปนะ แล้วเห็นคนใส่ถุงมือนี่อยากจะเดินไปบอก พี่คะ นี่สเตปค่ะ ใส่ถุงมือมาจับอะไรคะ

Jpeg

คลาสโยคะตัวก็ไม่ได้อ่อนขนาดนั้น
– ง่ายๆค่ะ เลือกคลาสที่ตัวเองเข้าได้ก่อน แล้วค่อยขยับไปยากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นแบบเป็นพนักงานออฟฟิศเหมือนป้าเนี่ย วันๆนั่งๆอยู่หน้าคอม ป้าก็เข้าแต่คลาสง่ายๆ เน้นยืดเหยียด ไม่เน้นความแข็งแรง
– บอกคนสอนก่อนว่าเพิ่งเข้าคลาสแรก ถ้าเป็นโยคะ (ไม่ใช่ บอดี้บาลานซ์นะ) เวลามี big pose ที่ยากหน่อย เค้าจะได้ช่วยดูและจัดท่า
– ท่ายากมองเค้าแล้วทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องเทียบค่ะ ทุกคนมีลิมิตของตัวเอง เอาเท่าที่ได้ ไม่ได้แต่อยากทำ ก็ให้ครูมาช่วย แต่ว่า ครั้งต่อไป ต้องตั้งใจว่าจะทำ beyond the limit ค่ะ

คลาสเต้นก็เต้นตามไม่ทัน
– ไม่ใช่ปัญหาค่ะ ปกติ พวกคลาสคลาดิโอ เต้นๆ จะมีพักเรื่อยๆอยู่แล้ว เป็น Smart start คือเล่นแค่ครึ่งชั่วโมง ถ้าไม่ไหวก็ออกห้องได้ ถ้าเหนื่อยจนเต้นไม่ไหว แนะนำว่าออกไปพัก แต่ถ้าไม่เหนื่อยแต่เต้นตามไม่ทัน แนะนำอยู่ต่อแล้วขยับท่าง่ายๆ เช่นขยับซ้ายขวา ตามจังหวะ ยกมือตามเค้า อาจจะไม่ต้องหมุน ไม่ต้องกระโดด แต่ให้คุ้นจังหวะไว้ แล้วคลาสหน้า มาลองใหม่ บางคลาส learning curve ไม่สูงมาก ครั้งแรกอาจจะช็อค ครั้งที่สองอาจจะเต้นได้ก็ได้
– ลองดูท่าพื้นฐานของแต่คลาสก่อน เวลาครูสอนพูดชื่อท่าเต้นแล้วเค้าเต้นยังไง พยายามเต้นท่าพื้นฐานไปก่อน เช่น two step คือ เดินสองก้าว cha cha cha ก็ขยับเท้าสามก้าว อะไรแบบนี้ แรกๆอาจจะเหนื่อยแล้วไม่มีสติในการฟัง แต่พอเริ่มคุ้นท่าพื้นฐาน ต่อๆไปก็ง่ายแล้วค่ะ
– บางคลาสมี options สำหรับคนที่ยังตามไม่ทัน ลองฟังดูว่าเวลาครูสอนบอกว่า ใครไม่ได้ให้ทำแบบนี้แทน ก็ทำท่าง่ายไปก่อนนะคะ
– สุดท้ายค่ะ ถ้าเข้าได้ซักพัก เริ่มตามทัน จะมีอารมณ์นี้คือ อีป้าข้างหน้าหมุนตัวใส่! กรี๊ดดด ชั้นทำไม่ได้ อุตสาห์เต้นตามเค้าทัน แต่อีป้าข้างหน้าดันมีท่าประหลาด แถมลงจังหวะอีก แนะนำให้ทำใจค่ะ อาจจะไม่ได้บอนด์ทูบี แต่ถ้าชอบจริงๆ ก็เข้าบ่อยๆค่ะ ป้าผ่านจุดนี้มาแล้ว คิดว่าเต้นตามทันนะ แต่พอมีตุ๊ดข้างหน้าเต้นท่าเมจิก มาจากไหนก็ไม่รู้ แต่แบบ เท่มาก อีดอก มึง รู้ได้ไง ไรงี้ อีนี้แอบเอาไปฝึกที่บ้านค่ะ ป้าจริมๆเลย -_-

เมื่อเธอสวยไม่พอ เธอจงเงิบต่อไป

เมื่อเธอสวยไม่พอ เธอจงเงิบต่อไป

บันทึกป้าฟิตเนสฉบับที่ 3: ชะนีเข้ายิมปีหนึ่ง

บล็อคนี้เขียนเมื่อสี่ปีที่แล้ว เอามารีโพสท์ สมัยที่ยังเพิ่งเป็นชะนีเข้ายิมปีหนึ่ง ยากไปหมดทุกอย่างทั้งเทรน ทั้งเข้าคลาส จากคนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย ต้องมาต่อสู้กับความอ้วนของตัวเอง เอาเถอะ ตอนนี้คิดว่าแข็งแรงขึ้นหน่อยละ

me before Personal Training (PT)

Me while doing PT

Me when out of energy while doing PT.

Me after PT

After that, we waiting for Group Exercise (GX)

But I couldn’t follow the teacher

After GX

Me after i saw my current weight

Me at the end of the day

 

Like everyday. – -“